การประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 3 ประจำปี 2562
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้มีการประชุมสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ครั้งที่ 3/2562 โดยนายเสนีย์ เอกบุตร ทำหน้าที่ประธานสภาดำเนินการประชุม มีฝ่ายบริหาร สมาชิกสภาฯ และหัวหน้าส่วนราชการขององค์การบริหาร เข้าร่วมประชุม ระเบียบหัวข้อในการประชุมหลัก เป็นข้อสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เกี่ยวกับแผนการดำเนินงานพัฒนาปรับปรุงถนนสายอำเภอสมเด็จเชื่อมไปยังอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยนายวิรัตน์ ภูต้องใจ ส.อบจ. เขตอำเภอสมเด็จ อภิปรายว่าถนนสายดังกล่าวเป็นถนนลาดยาง มีบางช่วงสี่เลนและช่วงสองเลนที่เป็นถนนแคบ เมื่อถึงฤดูเปิดหีบอ้อยของโรงงานน้ำตาล จะมีรถบรรทุกอ้อย ทั้งรถหกล้อ สิบล้อ และรถพ่วงสิบแปดล้อ วิ่งกันตลอดทั้งวันทั้งคืน ทำให้เกิดอุบัติเหตุในเส้นทางจากตัวอำเภอสมเด็จไปถึงทางแยกบ้างสร้างเสี้ยว จำนวนมากและบ่อยครั้ง ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินผู้ใช้เส้นทางดังกล่าวเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในวันนี้แขวงการทางกาฬสินธุ์ไม่มีเจ้าหน้าที่มาตอบ แต่ก็ได้ตอบเป็นหนังสือมา เมื่อได้อ่านแล้วก็ไม่ติดใจอะไร เพราะเขามีแผนที่จะขยายเขตถนนในปีงบประมาณต่อไป ในช่วงนี้ก็ขอให้ผู้สัญจรไปมาในเส้นทางนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และขอฝากผู้บริหารเกี่ยวกับถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ สายบ้านอู้ ตำบลมหาชัย อำเภอสมเด็จ ถนนชำรุดเสียหาย การสัญจรไปมาลำบากมาก ซึ่งได้แจ้งต่อผู้บริหารในการประชุมสภาหลายครั้งที่ผ่านมายังไม่ได้รับการแก้ไข และจัดสรรงบประมาณไปดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมามีประชาชนร้องผ่านทางสื่อ
ออนไลน์จำนวนมาก นายวรากรณ์ ภูอาภรณ์ ได้ตั้งกระทู้ถามนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ในเรื่อง คำสั่งแต่งตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ เข้าเป็นกรรมการออกติดตามผลการศึกษาโรงเรียนในสังกัด อบจ.กาฬสินธุ์ ของกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ว่าการดำเนินการดังกล่าวถูกต้องเหมาะสมหรือไม่ประการใด ซึ่งในปีที่ผ่านๆมา ก็ใช้คณะกรรมการสามัญประจำสภาเป็นผู้ออกดำเนินการติดตามรับทราบปัญหาอุปสรรค์ในการบริหารการศึกษา นำมาเรียนต่อสภาฯ แต่ปีนี้เห็นมีคำสั่งให้สมาชิกสภาบางท่านเข้าร่วม จึงขอเรียนถามประธานสภาว่า ท่านได้อนุญาตหรือไม่ ผู้บริหารท่านได้ตอบเป็นเอกสารมาได้แต่งตั้งสมาชิกสามท่านที่มีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ด้านการศึกษาเข้าร่วมเป็นกรรมการ สมาชิกสภาทั้งหมดในตอนนี้ก็มีความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ด้านการศึกษาไม่ต่างกัน เมื่อคณะกรรมการออกติดตามเสร็จแล้วนำมารายงานต่อใครต่อผู้บริหารหรือต่อสภาฯ ซึ่งได้รับการตอบกระทู้นี้โดยนางภัลลิกา ดลรักษ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รักษาการแทนผู้อำนวยการกองการศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ว่าแนวทางการแต่งตั้งสมาชิกเข้าเป็นคณะกรรมการเพื่อติดตามการพัฒนาหลักสูตร รับทราบปัญหา อุปสรรค์ และติดตามงบประมาณที่ส่งเสริมการศึกษาของโรงเรียนในสังกัด เพิ่มอีกสามท่านจากผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา หลังจากออกติดตามประเมินแล้วจะเชิญบุคคลต่างๆที่มีความรู้ความสารถและประสบการณ์ด้านการศึกษา ประชุม สรุปนำเรียนต่อผู้บริหารและรายงานต่อสภาทราบต่อไป สมาชิกที่เราเชิญในรูปแบบคณะกรรมการการศึกษา เราไม่ได้เชิญในรูปแบบสมาชิกสภาฯ และนายสุรพงษ์ พลซื่อ ส.อบจ. เขตอำเภอกุฉินารายณ์ ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ในวาระอื่นๆว่า อยากให้สภาฯทำตามระบบ เมื่อกรรมการไม่ครบควรให้สภาเป็นผู้เลือกเข้าไปแทน การประชุมในวันนี้ผู้บริหารอบจ.ได้เสนอญัตติขอแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 จำนวน 2 รายการเพื่อให้สภาอนุมัติ ซึ่งที่ประชุมไม่มีสมาชิกประสงค์จะอภิปราย จึงขอมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ เห็นชอบตามญัตติที่ผูบริหารเสนอขออนุมัติ ส่วนในวาระอื่นๆ นายเกรียงศักดิ์ พันธ์โกฏิ ส.อบจ. เขตอำเภอเมือง ได้เปิดประเด็นที่มีข่าวทางสื่อต่างๆเกี่ยวกับพี่น้องประชาชนชาวอำเภอกมลาไสย และสมาชิกสภาเขตอำเภอกมลาไสยสองท่านได้ร่วม ประท้วงเรียกร้องให้ทางสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ได้อนุมัติให้ทางโรงพยาบาลอำเภอกมลาไสยมีการจัดซื้อยาเพื่อรักษาคนป่วยไข้ได้ ซึ่งส.อบจ. เขตอำเภอกมลาไสย ได้เรียนต่อสภาว่า ตามที่เป็นข่าวนั้น มันเป็นปัญหาการทุจริตการซื้อยาของโรงพยาบาลอำเภอกมลาไสย ที่ได้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2561 การติดตามตรวจสอบได้ปล่อยเลยมาถึง ปี 2562มีเงินงบจัดซื้อหายไป 30 ล้านบาท ผลสอบข้อเท็จจริงมีมูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจึงถูกย้ายเด้งไปที่ โรงพยาบาลขอนแก่น แต่การตรวจสอบยังไม่เสร็จสิ้น จึงทำให้โรงพยาบาลกมลาไสยไม่มีงบจัดซื้อยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ ซ้ำยังติดค้างค่ายากับบริษัทผู้จำหน่ายยาอีกหลายล้านบาท จึงทำให้ยาและเวชภัณฑ์ในการักษาคนไข้บางชนิดขาด บางชนิดไม่เพียงพอกับผู้ป่วย โดยยารักษาโรคเรื้อรัง เช่นผู้ป่วยโรคเบาหวานหลายราย จะต้องกินยาติดต่อกันตามแพทย์สั่งโรคถึงจะหายหรือทุเลา เมื่อยาหมดก็ไปยืมยาเบาหวานจากเพื่อนบ้านที่เป็นโรคเดียวกันมากินประทังโรคก่อน ซึ่งก็ไม่ทราบว่ายาถูกกับตัวเองหรือไม่ ที่ผ่านมาโรงพยาบาลกมลาไสยได้ทำเรื่องขอจัดซื้อยามายังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่ก็ไม่ได้รับการอนุมัติ จึงทำให้โรงพยาบาลประสบกับปัญหาดังกล่าว นายประสิทธิ์ อาจบรรจง ส.อบจ. เขตอำเภอกมลาไสย กล่าวต่อสภาว่า สืบเนื่องจากในเรื่องนี้ได้มี
ประชาชนชาวอำเภอกมลาไสย ได้มาร้องเรียนที่จังหวัด แต่ไม่เป็นผล จึงได้ไปพบสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเขตอำเภอกมลาไสยทั้งสองคนให้ช่วยเหลือ ส่วนมากเป็นคนไข้และผู้นำหมู่บ้านผู้นำชุมชนบอกว่ายาขาด คนป่วยไข้มีแต่ทรุด ในฐานะตัวแทนของพี่น้องประชาชน ก็ได้ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย จึงได้ไปสอบถามขอรายละเอียดและหลักฐานจากโรงพยาบาลกลมาไสย จึงได้ทราบว่า โรงพยาบาลขาดยาและได้ทำหนังสือไปยืมยาจากโรงพยาบาลต่างๆ จำนวน 9 โรงพยาบาล เพื่อนำมารักษาคนป่วยไข้ ในฐานะตัวแทนประชาชนจึงขอดูเอกสาร มีเงินหายไปครั้งแรก 30 ล้านบาท ครั้งที่สองอีก 5 ล้านบาท รู้สึกสงสารผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องฉีดยาประจำ ที่มีเข็มฉีดยาไม่เพียงพอต้องใช้เข็มเดียวฉีดซ้ำคนเดิมอี 6 ครั้งจนเข็มแทงไม่เข้า ก็ไปยืมเข็มฉีดยาจากคนอื่นมาใช้ก่อน ในเรื่องนี้ก็จะได้ทำเป็นข้อสอบถามผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อจะได้ทราบความกระจ่างต่อไป